เงื่อนไข ข้อบังคับทนายความชมรม

กรณีทำหน้าที่เป็นทนายความประจำชมรม เพื่อให้คำปรึกษาด้านข้อกฎหมาย และคดีความแก่ประชาชน

  1. ทนายความจะต้องเป็น ผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านกฎหมาย ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงตรง เที่ยงธรรม ให้สมกับเป็นผู้ที่ให้บริการด้านจิตกุศลโดยแท้
  2. ทนายความชมรม จะต้องไม่ให้คำปรึกษาในลักษณะยั่วยุ ยุ่แยง ส่งเสริมให้คู่ความทั้งสองฝ่าย เกิดคดีหรือแตกแยกคดีให้เพิ่มมากขึ้น
  3. ทนายความชมรม จะต้องไม่ให้คำปรึกษาในลักษณะชู้สาว หรือ สร้างความสัมพันธ์ เกินสถานะภาพความเป็นทนายความชมรมให้ความรู้ทางด้านกฎหมายและวิชาชีพทนายความกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อยอย่างเด็ดขาด
  4. ทนายความชมรม จะต้องไม่นำข้อเท็จจริง เอกสารหลักฐาน ที่ได้มา หรือ รับฟังมา ได้แสวงหาประโยชน์อัมมิควรได้ โดยการนำข้อเท็จจริงที่ได้มาหรือรับฟังมานั้น ไปเล่า หรือ ไปไขข่าวแพร่หลายแก่บุคคลอื่นทั่วไป หรือ คู่กรณีปรปักษ์กับผู้ที่ให้ข้อเท็จจริงนั้นอย่างเด็ดขาด
  5. ทนายความชมรม จะต้องไม่นำข้อมูลที่ได้มาจากในฐานะความเป็น ทนายความชมรม หรือ มาอยู่ในชมรม แสวงหาประโยชน์ส่วนตนเอง โดยนำข้อเท็จจริง หรือ ความนั้นไปรับงาน รับขันอาสา นอกเหนือหรือนอกรอบอย่างเด็ดขาด
  6. ทนายความชมรม จะต้องประพฤติตน ให้อยู่ภายใต้ศิลธรรมอันดี ไม่ใช้เครื่องมือสื่อสารของชมรมฯ แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้ หรือ นำไปใช้นอกเหนือกิจการและวัตถุประสงค์ของชมรมฯ อย่างเด็ดขาด
  7. ทนายความชมรม จะต้องไม่นำความชมรมฯ หรือ ที่ได้รับรู้เนื่องจากความเป็นทนายความชมรมฯ นั้นไปแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้ ไม่ว่าจะผิดกฎหมายหรือไม่ก็ตาม หากเพียงผิดศิลธรรมอันดีของผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมายและทนายความก็เพียงพอแล้ว
  8. ทนายความชมรม จะต้องไม่กระทำการใดๆ ที่ทำให้ชมรมฯ เสียภาพพจน์ หรือ เสียชื่อเสียงอย่างเด็ดขาด
  9. ทนายความชมรม จะต้องไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการกระทำให้ชมรมฯ ได้รับความเสียหายอย่างเด็ดขาด
  10. ที่สำคัญ หากทางชมรมฯ ตรวจสอบหลักฐานและพยานเบื้องต้นพบว่า ทนายความชมรมนั้น ได้กระทำการฝ่าฝืนข้างต้น ทนายความผู้นั้น ตกลงยินยอมให้ชมรมฯ ดำเนินการทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และตาม พ.ร.บ.มารยาททนายความ และตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยไม่โต้แย้งท้วงติงแต่อย่างใดทั้งสิ้น